ถอดบทเรียน ... "การเมือง เยาวชน คนรุ่นใหม่" โดย "บิ๊กตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน
"บิ๊กตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ หรือคุณอาตู่ ,คุณไทกร พลสุวรรณ ,คุณพราหมณ์ศักดิ์ระพี พหรมชาติ (ลุงพราม ) และ คุณอรรถพล มะสะพันธุ์ ให้การต้อนรับน้องๆเยาวชน คณะหลอมรวมประชาชน
นำโดย นส.ศศิธร มะสะพันธุ์ ( น้องมินท์), นายอภิพร ยอดดำเนิน ( น้องนาย)และคณะเยาวชน คณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งเข้ามาเยี่ยมชม Peace TV และได้เข้าพบ พูดคุย และขอความรู้ กับคุณอาตู่ จตุพร , คุณอาไทกร และ คุณลุงพราม เกี่ยวกับ เส้นทางการเมือง-รัฐบาล ซึ่ง คุณตู่ จตุพร ได้นั่งพูดคุยกับน้องๆ อย่างเป็นกันเอง
นายจตุพร ฯ กล่าวว่า การต่อสู้ทางการเมืองก็มีแพ้ชนะสลับกันไปไม่มีใครชนะตลอดและไม่มีใครแพ้ตลอด เพราะฉะนั้นเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 นี้ก็ชนะอย่างราบคาบ นั้นก็หมายความว่าได้เอาเผด็จการพ้นไปจากประเทศไทยอย่างยาวนาน มากกว่า 14 ปี แต่ว่ามันก็ต้องสังเวยชีวิตแก่ผู้คน กว่า 80 ชีวิตแต่ความจริงมันน่าจะมากกว่านั้น บาดเจ็บนับพัน เหตุการณ์ เดือนเมษา พฤษภาคมปี 53 ซึ่งก็ตายกันร่วมร้อยกว่าชีวิต บาดเจ็บกว่า 2,000 คน แต่ผลลัพธ์มันมาสำแดงในการเลือกตั้งครั้งถัดมา เราก็ถูกคุมขัง ขณะเป็น ส.ส. ข้างในเรือนจำ คือคนต่อสู้ก็ต้องแลก แต่ระหว่างชีวิตอิสรภาพต้องเดิมพันว่าต้องติดคุกวันไหนต้องตายวันไหน แต่ถ้าเราสู้เพื่อประเทศเพื่อส่วนรวม เราก็ไม่ได้มีความรู้สึกว่า เราจะ ต้องแบกรับความกดดัน อันนั้น ฉะนั้นในระหว่างทางเพื่อประโยชน์ชาติหลายกรณี ในระหว่างเหตุการ์ต่างวาระ ต่างกันต่างปี ตั้งแต่ปี 35 จน ถึงปี 53 จน กระทั่ง ถึงปัจจุบัน ก็เคลื่อนไหวกันโดยตลอดก บางครั้งก็เข้าไปอยู่ในสภาก็ทำหน้าที่ ส.ส. เพื่อปกป้อง ผลประโยชน์ของชาติมากกว่า เพราะฉะนั้น ถามว่าชนะกับแพ้ มันก็มีอยู่ตลอดเวลา วันนี้แพ้ พรุ่งนี้ก็ชนะ วันนี้ชนะก็ไม่ได้หมายความว่าวันพรุ่งนี้จะชนะ แต่ว่าใจเราสำคัญที่สุด ใจเรา ต้องไม่แพ้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร บางเรื่องเราแพ้ แต่ว่าใจเราต้องไม่แพ้เพื่อจะรอชัยชนะในสงคราม
สงครามเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทุกเรื่องราวมันมีให้เกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะฉะนั้นต้องมีความหวัง ส่งไม่สิ้นหวังต้องไม่ยอมจำนน
นายจตุพร ฯ กล่าวต่อว่า การที่เยาวชนออกมาต่อต้านอำนาจเผด็จการ ก็ไม่ได้มีความผิดอะไร นั้นหมายความว่าเรากำลังทำสิ่งที่ดี เพราะเราคือเจ้าของประเทศ เราคืออนาคต ของประเทศไทย ถ้าคนหนุ่มสาว เยาวชน ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ประเทศนั้นจะหาอนาคตไม่ได้เลย เป็นประเทศที่สิ้นหวังเพราะฉะนั้นชะตากรรมของประเทศเราต้องมีส่วนร่วมในการกำหนด หน้าที่ของคนรุ่นเรา เราก็ต้องการภารกิจ ส่งมอบมรดกประเทศให้กับรุ่นลูกรุ่นหลาน ที่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด หน้าที่ของเราคนรุ่นใหม่ก็เหมือนกันวันหนึ่งก็ต้องเป็นคนรุ่นเก่าเหมือนกัน วันหนึ่งก็ต้องเป็นคนรุ่นเก่าและใหม่ก็ต้องนำไปสู่เก่าเพราะเราหนีการเกิดแก่เจ็บตายกันไม่พ้น เพราะฉะนั้นช่วงชีวิตเราก็ต้องทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อที่จะนำส่งต่อให้กับรุ่นลูกรุ่นหลาน เป็นรุ่นต่อรุ่นอย่างไม่มีวันหมด ดังนั้นจึงไม่มีความผิดอะไรที่น่ากลัว รัฐบางครั้งก็ใช้กฎหมายเพื่อความข่มขู่ให้น่ากลัว แต่ว่ามันใช้ขู่ได้เฉพาะคนที่กลัวเท่านั้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ในการต่อสู้เพราะว่ามันยังไม่ได้ถึงจุดที่ต้องกระทบกันในทางกฎหมาย ก็เห็นกันว่าในการชุมนุมในรอบนี้เราก็ ไม่มีปัญหาในข้อกฎหมาย ส่วนข้อร้องเรียนก็เป็นเรื่องของคนนั้นๆไม่ได้หมายความว่าเขาร้องเรียนแล้วเราจะมีความผิดใจเรารู้ว่าเราทำอะไร นายจตุพร ฯ ได้กล่าวทิ้งท้าย ...
นุช Stag On Leader รายงาน