วันที่ 18 ก.ค. 65 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ วิทยาลัยการศึกษาและการจัดการทางทะเลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาเขตสมุทรสาคร ได้มีการจัดเสวนา “เหลียวหน้าแลหลังทางออกวกฤตการการค้ามนุษย์ประมงไทย โดยทางคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ร่วมกับ วิทยาลัยการศึกษาและการจัดการทางทะเลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาเขตสมุทรสาคร เป็นผู้ดำเนินงาน โดยได้เชิญผู้แทนจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นำโดยนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร และนายกสมาคมประมงฯจากจังหวัดต่างเข้าร่วมในการเสวนาในครั้งนี้
ปัญหาดังกล่าชาวประมงให้ข้อมูลว่าเกิดจากปัญหาบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะที่ชาวประมงพยายามแก้ไขปัญหานี้มาโดยตลอด และตระหนักรับรู้ถึงมาตรการทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐพยายามนำมาใช้ เป็นยาแรงโดย มีการปรับแรงงานค้ามนุษย์ในประมงเสมือนแรงงานค้ามนุษย์บนบก ซึ่งไม่มี่ความเท่าเทียมกัน โดยการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 6 ของพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ระบุว่า การค้ามนุษย์ทางเพศและการค้ามนุษย์ด้านแรงงานเป็นความผิดอาญา
อีกทั้งยังกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 4-12 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000-1,200,000 บาท (13,370-40,110 USD) สำหรับการกระทำความผิดต่อผู้เสียหายที่เป็นผู้ใหญ่และกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 6-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-2,000,000 บาท (20.0S0-66,840 USD) สำหรับการกระทำความผิดต่อผู้เสียหายที่เป็นเด็ก บทลงโทษดังกล่าวเข้มงวดเพียงพอ และสำหรับกรณีการค้ามนุษย์ทางเพศบทลงโทษนี้เทียบเท่าได้กับบทลงโทษสำหรับความผิดอาชญากรรมร้ายแรงอื่น ๆ เช่น การข่มขืน พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 แยกบทบัญญัติเฉพาะกับ "การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ" ออกมาอยู่ภายใต้มาตรา 6/1 ซึ่งกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี ปรับตั้งเเต่ 50,000-400,000 บาท (1,670-13,370 USD) ต่อผู้เสียหาย 1 คน หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทบัญญัตินี้กำหนดโทษสำหรับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้านแรงงานน้อยกว่าโทษที่มีอยู่แล้วตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ มาตรา 6/1 สร้างความสับสนให้กับเจ้าหน้าที่รัฐที่สอบสวนการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีแนวทางปฏิบัติต่าง ๆ และการค้ามนุษย์ในเรือประมงพาณิชย์ไม่มีอย่างแน่นอน
พญาราหู พิราบข่าว 03/สมุทรสาคร