วันอาทิตย์ที่ 12 ก.ย.64 ณ บริษัทไทยพลัส อ.หนองเสือ จว.ปทุมธานี :
ตัวแทน 3 บริษัท 1 สมาคม ประกอบด้วย นายอภิภู พีรภูรินท์ ประธานกรรมการ บริษัท ยิ้มหวาน อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด นายสุเทพ เสงี่ยมศักดิ์ นายกสมาคมผู้ปลูกพืชทางเลือกใหม่เพื่อการเรียนรู้และการค้าไทย นายสรศักดิ์ มีชัย ประธานกรรมการ บริษัท ไทยพลัสเทคโนโลยี จำกัด นายสุรศักดิ์ ศิริบุญ ประธานกรรมการ บริษัท เพื่อนกัญ 2021 จำกัด และนายสืบสกุล รุ่งแสง วิศวกรดูแลเครื่องและดูแลการผลิต ร่วมแถลงข่าวและร่วมพิธีลงนามความร่วมมือ MOU โครงการปลูกต้นกระท่อม 1 ล้านต้น โดยมี 15 ตัวแทนจำหน่าย และผู้สื่อข่าว ร่วมในพิธี
นายอภิภู พีรภูรินท์ ประธานกรรมการ บริษัท ยิ้มหวาน อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด เปิดเผยว่า.. โครงการนี้เป็นโครงการที่ทำร่วมกันระหว่าง ภาคเอกชนกับสมาคมผู้ปลูกพืชทางเลือกใหม่เพื่อการเรียนรู้และการค้าไทย เพื่อที่จะผลักดันให้เกษตรกรได้มีโอกาสได้เข้าถึงการปลูก “พืชกระท่อม” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ทำการแก้ไขกฎหมายปลดล็อคพืชกระท่อมให้พ้นจากคำว่ายาเสพติดเรียบร้อยแล้ว ทางเราจึงเตรียมตัวผลักดันเรื่องของการปลูก เรื่องของการแปรรูปรวมถึงเรื่องของการจำหน่าย “ พืชกระท่อม” ในอนาคต ณ วันนี้ประเทศญี่ปุ่นได้จด สิทธิบัตรพืชกระท่อมของเราเข้าไปในสูตรยาของประเทศแล้ว เค้าต้องนำเข้าจากประเทศมาเลเซียเพราะประเทศของเค้าไม่สามารถจะปลูกได้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ท่าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ปลดล็อคพืชกระท่อมเพราะฉะนั้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะให้เกษตรกรของไทยได้เข้าถึงและสร้างรายได้ จากการปลูกพืชกระท่อมครั้งนี้ด้วย โดยเกษตรกรกลุ่มแรกจะเริ่มที่จังหวัดปราจีนบุรีเพราะสมาคมอยู่ที่ปราจีนบุรีและจะกระจายไปสู่ภาคตะวันออกในภาคอีสาน รวมทั้งทางภาคเหนือด้วยครับ
ทางด้าน นายสรศักดิ์ มีชัย ประธานกรรมการ บริษัท ไทยพลัสเทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า.. โรงงานที่เราแถลงข่าวแล้ววันนี้จะเป็นโรงงานต้นแบบจะเป็นโมเดลการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อม ซึ่งโรงงานที่จะใช้ผลิตจริงจะมีเนื้อที่ ประมาณ 20 ไร่ เพราะนโยบายของเราต้องการจะส่งเสริมให้เกษตรกรทำเกษตรกรอย่างยั่งยืน คือปลูกกระท่อมครั้งเดียวอยู่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน ซึ่งจะเป็นผลดีกับเกษตรกรในเรื่องรายได้และประเทศชาติ เพราะสามารถทำเป็นสินค้าส่งออกนำรายได้กลับสู่ประเทศได้ และจะเป็นผลดีต่อโรคด้วยเพราะจะทำให้โลกมีต้นไม้มากขึ้น ซึ่งเราจะส่งเสริมให้โครงการนี้สำเร็จให้ได้ เพราะเรามีเป้าหมายว่าเราจะทำให้เมืองปทุมธานีนี้เป็นเมืองหลวงของกระท่อมและโกโก้ด้วย จำนวน 1,000,000 กล้านี้ เป็นแค่ 1,000,000แรก ซึ่งต่อไปก็จะมี 1,000,000ที่สอง ที่สาม ที่สี่ ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกษตรได้รับผลประโยชน์มีรายได้พลิกชีวิตได้เลย ในส่วนของราคาการรับซื้อกระท่อม เราจะมีสัญญารับซื้อระยะเวลา 5 ปี โดยแบ่งการซื้อเป็น 3 เกรด A B C ราคา 50 – 200 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องราคาจะมีขึ้นลง เนื่องจากช่วงนี้ราคาสูง แต่ในช่วง 2-3 ปีนี้ราคาจะลงแล้ว เมื่อครบ 5 ปีแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อรับซื้อในราคาที่เหมาะสมในช่วงนั้น ๆ ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่วางไว้ปลายปีนี้เราอาจจะได้ไปแถลงข่าวที่โรงงานแห่งใหม่ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ แน่นอนครับ ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้มีมูลค่าการก่อสร้างถึง 100 ล้านบาทครับ
นายอภิภู กล่าวอีกว่า.. แปรรูปนั้นตอนนี้เรากำลังรอเรื่องการร่างกฎหมายให้เรียบร้อย ซึ่ง โรงงานที่เราเตรียมเอาไว้เราจะทำในเรื่องผงสารสกัดจากใบกระท่อม ซึ่งการที่เราใช้โรงงานนี้เพราะเป็นโรงงานที่เราใช้แปรรูปผงโกโก้เป็นหลัก ซึ่งตอนนี้บริษัททองกนกเพลท กำลังเตรียมตัวที่จะซื้อผลผลิตในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเข้าป้อนลายผลิตผงโกโก้และเครื่องดื่มโกโก้ เพราะฉะนั้นตรงนี้ทางทีมงานเราได้เตรียมตัวรองรับเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และก็จะเป็น LINEผลิตในเรื่องของการแปรรูปกัญชาด้วย เป็นสารสกัดจากใบกัญชา ซึ่งตอนนี้เราก็มีสินค้าเพื่อเตรียมทดลองตลาดอยู่ ซึ่งตอนนี้มีการทดลองชิมและทดลองตลาดอยู่แล้วครับ ซึ่งจะเริ่มวางตลาดในประเทศก่อน สำหรับ “พืชกระท่อม” มีการวางแผนที่จะวางตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย
“ อย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่าขณะนี้ญี่ปุ่นได้จดสิทธิบัตรยาพี่ใช้สารสกัดจากกระท่อมเป็นสิทธิ์ที่บัตรประเทศเขาเลย เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมสารสกัดตัวนี้เพื่อ ส่งออกให้ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาและอีกหลายๆประเทศในยุโรปด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลการผลิตตั้งแต่การเป็นต้นกล้า จึงเกิดโครงการนี้ขึ้นครับ ซึ่งบริษัทยิ้มหวานอินเตอร์ฟู๊ดของเรามีประสบประการเรื่องการผลิต โกโก้มาแล้วตั้งแต่เราผลิตให้กับทองกนกเพลท เรามีประสพการณ์ในการทำต้นกล้าโกโก้มาแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้หน้าที่ทำต้นกล้ากระท่อม 1,000,000ต้นซึ่งถือเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ เราได้เตรียมตกนี้เป็นแปลงอินทรีย์เต็มรูปแบบทั้งระบบ โดยไม่ใช้สารเคมีเลย ซึ่งหลังจากที่บริษัทยิ้มหวานอินเตอร์ฟู๊ดผลิตต้นกล้า คุณภาพในระบบอินทรีย์ออกมา พ่อจะดำเนินการส่งต่อให้กับทางสมาคมผู้ปลูกพืชทางเลือกใหม่เพื่อการเรียนรู้และการค้าไทย ผ่านบริษัทเพื่อนกัญ เพื่อให้เกษตรกร ได้มีโอกาสปลูก หลังจากนั้นบริษัทไทยพลัสจะทำหน้าที่ในการแปรรูป เพราะฉะนั้นในวันนี้เราวางแผนตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำจนถึงปลายน้ำครับ ซึ่งเราใช้กระบวนการทางการตลาดนำการผลิต จริงไม่ต้องกลัวเรื่องการล้นตลาดเพราะเราวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ พี่น้องเกษตรกรไม่ต้องห่วงเพราะเราวางแผนการตลาดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วแน่นอนครับ” นายอภิภู กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้าน นายสุรศักดิ์ ศิริบุญ ประธานกรรมการ บริษัท เพื่อนกัญ 2021 จำกัด กล่าวว่า.. ส่วนทาง บริษัทเพื่อนกัญ มีหน้าที่รับต้นกล้าจากบริษัทยิ้มหวาน จำนวน 1,000,000 ต้นเพื่อมาดูและคัดคุณภาพ จากนั้นจะทำการส่งต่อให้กับทางสมาคมผู้ปลูกพืชทางเลือกใหม่เพื่อการเรียนรู้และการค้าไทย ซึ่งทางสมาคมก็จะมีสมาชิกอยู่นับ 100,000 คนเพื่อที่จะรองรับ ซึ่งสายพันธุ์ที่เราจะแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมนั้น จะต้องเป็นสายพันธุ์ที่ทาง อย. รับประกัน จึงจะสามารถทำการผลิตและจำหน่ายได้ เพราะว่าต้นกล้าที่จะไปถึงมือเกษตรกรจะต้องเป็นต้นกล้าที่สมบูรณ์จริงๆ ซึ่งเราก็มีหน้าที่เป็น Inspector ส่งต่อให้กับทางสมาคมครับ โดยทางบริษัทจะตรวจสอบต้นกล้าที่รับมาจากบริษัทยิ้มหวาน ตรวจสอบตั้งแต่ ต้นและใบ ว่าสมบูรณ์ไหม ตรวจสอบขนาดได้ตามมาตรฐานหรือเปล่า เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ตรงความต้องการต่อไปครับ
ทางด้าน นายสุเทพ เสงี่ยมศักดิ์ นายกสมาคมผู้ปลูกพืชทางเลือกใหม่เพื่อการเรียนรู้และการค้าไทย (สปกท.) กล่าวว่า.. ในส่วนของวัตถุประสงค์ของงานทำโครงการปลูกกระท่อม 1 ล้านต้น เกิดขึ้นมาจากทางสมาคมได้ทำ กัญชา กัญชง และกระท่อมด้วย เราเริ่มทำกัญชามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ว่าตัวกัญชาและกัญชงเหมือนมันจะตันนะครับ กฎหมายของกระท่อมออกมาเร็วแล้วก็สามารถดำเนินการได้ค่อนข้างง่าย ง่ายกว่าเยอะเลย ทางสมาคม สปกท.ได้คุย คณะกรรมการฯ ว่าเรามาทำกระท่อมก่อนดีกว่า เพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์แล้วก็มีรายได้ คือ สามารถพลิกชีวิตได้เลย เมื่อพูดคุยเสร็จแล้ว ก็เกิดโครงการ 1 ล้านต้นขึ้นมา ในส่วนของทางสมาคมฯ ผมก็เลยประสานงานกับทางบริษัทที่เคยทำร่วมกันในเรื่องของกัญชา ที่ทำกัน
ร่วมกันในเรื่องของต้นโกโก้ที่มีการแปรรูปมีการเพาะพันธุ์ต้นกล้าขึ้นมาเนี่ยนะครับ เลยพูดคุยกัน สุดท้ายมาสรุปที่ว่าการที่เราจะสร้างให้ประชาชนมีรายได้ขึ้นมาโดยเฉพาะสมาชิกของสมาคมฯ เนี่ยนะครับ มันจะต้องมีกระบวนการตั้งแต่การการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้ได้ต้นกล้าที่ดีนะครับ แล้วก็สามารถเพาะปลูกได้คือมีรายได้เข้ามาเยอะนะครับ ก็จะมีการตรวจสอบคุณภาพ มีการจำหน่าย มีการลำเลียงของไปให้ถึงมือเกษตรกรนะครับ ถ้าทำทุกอย่างมันลงตัวเกษตรกรมีรายได้ดีแน่นอน
“ทางสมาคมมีหน้าที่ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ แล้วก็จะมีคณะกรรมการที่อยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว เพราะทางสมาคมจะมีประธานภาคประธานจังหวัด ดูแลเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนด้วย ซึ่งหลังจากแถลงข่าววันนี้แล้วเราจะมีการประชุมเพื่อชี้แนวทางต่างๆ เพื่อมอบหมายให้กับตัวแทนจำหน่าย ซึ่งก็คือคณะกรรมการของเราที่มาในวันนี้ด้วย เพื่อที่จะกระจายให้กับเกษตรกร ได้รับรู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ เพื่อที่เขาจะได้สามารถสั่งผ่านตัวแทนของเราขึ้นมา ซึ่งพอตัวแทนจำหน่ายสั่งออเดอร์เข้ามาผมก็จะส่งออเดอร์ให้กับทางบริษัทเพื่อนกัญ ซึ่งบริษัทเพื่อนกัญก็จะส่งต่อให้กับบริษัทยิ้มหวาน ซึ่งบริษัทยิ้มหวานก็จะรวบรวมออเดอร์ทั้งหมดว่ามีเท่าไหร่แล้วก็จะส่งกลับมาที่บริษัทเพื่อนกัญอีกทีนึงเพื่อตรวจสอบคุณภาพ คือของเราจะมีสองรูปแบบคือหนึ่งปลูกจากเมล็ด ความสูงอยู่ที่ 20 เซนติเมตรขึ้นไป และก็จากการเสียบยอด ความสูงก็อยู่ที่ 30 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งถ้าได้ตามนี้บริษัทเพื่อนกันก็จะทำ QC คุณภาพก่อน เพื่อจะให้สิ่งที่ดีส่งถึงเกษตรกร ซึ่งทางบริษัทยิ้มหวานจะมีการรับประกันการปลูกในระยะเวลาหนึ่งเดือน หลังจากรับต้นกล้าไปแล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็ผ่านครับ แต่ถ้าภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนต้นกล้ามีปัญหาทางบริษัทยิ้มหวานก็จะส่งต้นกล้ามาเคลมให้ครับ เพราะว่าทางเราอยากให้เกษตรกรมีรายได้จากนโยบายของรัฐบาล เพราะฉะนั้นกระบวนการนี้ค่อนข้างโอเคเลยเพราะจะทำให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์สูงสุดครับ”
หลังการแถลงข่าว คณะผู้จัดงานได้นำ ผู้ร่วมงานและผู้สื่อข่าวเยี่ยมชมโรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานต้นแบบในการผลิต และนำเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตและการทำงานต่างๆ รวมทั้งแนะนำผลิตภัณฑ์สินค้าที่ทางโรงงานได้ผลิต และมอบผลิตภัณฑ์สินค้าที่แนะนำให้กับผู้ร่วมงานด้วย
#สมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี)