"จับกุม 2 สามีภรรยา ฉ้อโกงวงแชร์ออนไลน์ บ้านออมเงินรัฐพล"
มูลค่าความเสียหายกว่า 16.8 ล้าน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี และ
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี ได้กำหนดยุทธศาสตร์และมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบต่างๆ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้แต่งตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล
ผบช.สตม. รองผู้อำนวยการ
ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) รับแจ้งว่ามีมิจฉาชีพได้หลอกลวงผู้เสียหายจำนวนหลายรายชักชวนให้ร่วมเล่นกลุ่มแชร์ออนไลน์ โดยใช้ชื่อว่า กลุ่มไลน์บ้านแชร์มัสชี จะเป็นแชร์ราย 5 วัน และแชร์ขั้นบันได โดยจะแบ่งเป็นชื่อวงแม่ค้าคนงาม (แชร์รายวัน) และวงวีไอพี (แชร์รายเดือน) โดยจะได้ผลตอบแทนจากเงินที่ลงทุนเป็นแบบการคืนเงินต้นและดอกเบี้ยทุก ๆ 5 วันตามมือรับ
และต่อมาผู้ต้องหาได้มีการชักชวนให้ร่วมลงทุนกับนายทุน โดยจะให้ดอกเบี้ยเงินปันผล ร้อยละ 21 ต่อเดือน โดยจะใช้ข้อความชักชวนให้เชื่อว่ามีนายทุนได้มาลงทุนจริง จนทำให้ผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อ โดยจะตั้งเป็นกลุ่มไลน์ชื่อว่า “บ้านออมเงินรัฐพล” มีการจ่ายเงินปันผลที่เป็นดอกเบี้ยตอบแทนในระยะเริ่มแรกประมาณ 3 เดือนจริง และหลังจากนั้นทั้งสองสามีภรรยา ได้ประกาศกับทางกลุ่มบ้านออมเงินรัฐพลว่าขาด
สภาพคล่องทางการเงิน ขอหยุดจ่ายเงินปันผล และจะมีการจ่ายเงินต้นคืน โดยอ้างว่ารอเงินจากนายทุน ซึ่งทางผู้เสียหายได้ทวงถามมาตลอด และทั้งสองคนบอกว่าไม่มีเงินและไม่มีนายทุนตามที่กล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด รวมความเสียหาย 19 ราย
เป็นเงินจำนวน 16.8 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นความเสียหายในพื้นที่ สภ.วังน้ำเย็น จว.สระแก้ว จำนวน 6,000,000 บาท และ
สภ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว จำนวน 10,800,000 บาท ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุด ศปอส.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวน และขออนุมัติต่อศาลจังหวัดสระแก้วออกหมายจับ นางสาวรัตนาภรณ์ อ่อนอุทัย (หมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.47/2562 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562) และนายรัฐพล วรรณูปถัมภ์ (หมายจับศาลจังหวัดสระแก้วที่ จ.48/2562 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562) ในความผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่อาจจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
กฎหมายที่เกี่ยวข้องความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” ระวางโทษ จำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,343
ความผิดฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” ระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา 4 และมาตรา 12ความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ” ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2)
ข้อมูลข่าวสาร พ.ต.ต.หญิงพัชรี ศรีเผือก สว ฝอ 5.บก.อก.สตม
